ทำเว็บไซต์แบบไม่ต้องโค้ดด้วย WordPress By wpthaiuser.com

บทความนี้ไม่ได้จะมาบอกว่าบอกว่าการรู้เรื่องโค้ดเป็นสิ่งไม่จำเป็นนะคะ แต่ตรงกันข้ามคือมัน จำเป็นมาก หากเราต้องการที่จะทำเว็บแบบเป็นอาชีพ แต่ WordPress นั้นจะถูกทำออกมาให้สามารถใช้งานง่ายสำหรับคนที่อยากทำเว็บไซต์ส่วนตัว แต่ไม่รู้เรื่องโค้ด สามารถที่จะทำเว็บเองได้เหมือนการไปซื้อของในตลาดมาทำกับข้าว เราอยากให้กับข้าวของเราออกมารสชาติแบบไหน หน้าตายังไง ก็ไปเลือกซื้อวัตถุดิบ แล้วมาปรุงแต่งให้ออกมาอย่างที่ต้องการ ดังนั้นเครื่องมือของ WordPress ไม่ว่าจะเป็นธีมหรือปลั๊กอินจึงได้มากตามไปด้วย

แต่หากเราเป็นคนที่ ต้องการจะทำเว็บให้คนอื่นเป็นอาชีพ เราควรที่จะสามารถโค้ดเองให้เป็น เพื่อที่เวลาทำเว็บไซต์ให้ลูกค้านั้นจะได้ไม่ต้องผสมผสานเครื่องมือไปมากมาย เพราะคนทั่วไปที่ไม่ใช่คนที่ชอบเทคโนโลยีอยู่แล้ว เขาต้องการเพียงอะไรที่เรียบง่าย รวดเร็ว กรอกข้อมูลแล้วเผยแพร่ออกมาเป็นอย่างที่ต้องการได้เลย จะเห็นว่าแม้จะมีธีมและเครื่องมือที่ครบครันมากมาย แต่เราก็ยังจะเจอปัญหากับความยุ่งยากในการตั้งค่าต่างๆ อยู่เสมอ ยิ่งยืดหยุ่นมาก การตั้งค่าก็จะยิ่งมากขึ้นเป็นเงาตามตัว

วันนี้เราจะมาพูดถึงแง่มุมของผู้ใช้งานทั่วไปที่อยากจะจับ WordPress มาทำเว็บไซต์ด้วยตัวเอง ว่าเราจะต้องเตรียมตัวรับมือกับอะไรบ้าง

 1. เลือกธีมให้เหมาะกับเว็บที่จะทำ

สิ่ง สำคัญเรื่องแรกในการทำเว็บด้วย WordPress ก็คือ การเลือกธีม นอกจากที่จะเลือกจากหน้าตาของธีมแล้ว ฟังชั่นการใช้งานต่างๆ ที่เขามีมาให้เป็นสิ่งที่เราต้องเชคอย่างละเอียด เพราะอย่าลืมว่าถ้าเราเขียนโค้ดไม่เป็น การจะเพิ่มหรือลดอะไรซักอย่างเข้าไปให้มันสวยงามดูดีเข้ากันนั้น ไม่ใช่เรื่องง่าย วิธีการเลือกธีมอันดับแรกเลยคือ เลือกตามหมวดหมู่ก่อน

mythemeshop-cat

จริง อยู่ที่ว่ามันไม่ใช่เรื่องจำเป็นที่จะต้องเลือกธีมตรงกับหมวดหมู่เสมอไป เพราะเราสามารถที่จะอแด็ปส่วนต่างๆ ให้เข้ากับเนื้อหาของเราได้ แต่การเลือกธีมแบบนี้ก็จะยังต้องอยู่บนฟังชั่นการใช้งานพื้นฐานของเว็บที่ เราต้องการจะทำอยู่ดี เว็บบล็อกสำหรับเขียนบทความทั่วไปอาจไม่ใช่เรื่องใหญ่ เพราะ WordPress นั้นมีความเป็นบล็อกเป็นพื้นฐานอยู่แล้ว แต่หากใครจะทำเว็บที่เฉพาะด้านกว่านั้น เช่น eCommerce, Magazine, News, Travel ก็จะเหมาะกว่าที่จะเลือกธีมเฉพาะด้านนั้นๆ ไปเลย อย่างที่บอกว่าเครื่องมือพื้นฐานของเขาก็จะมีครบมากกว่า ธีมข่าวสามารถที่จะจัดแบ่งหมวดหมู่ข่าวต่างๆ ให้น่าสนใจได้ดีกว่า ธีมแฟชั่นมีความเรียบหรูโทนสีคลาสสิกแต่ส่งให้ภาพเสื้อผ้าและนางแบบดูโดด เด่น ธีมท่องเที่ยวเพิ่มแผนที่ให้เราสามารถปักหมุดยังจุดหมายต่างๆ ควบคู่ไปกับบทความได้ เป็นต้น ธีมเฉพาะด้านเหล่านี้จะช่วยอำนวยความสะดวกให้กับเราได้มากโดยไม่ต้องไปปวด หัวกับการออกแบบอะไรมากมาย

แต่หากใครจะทำเว็บแนวบริษัท หรือครีเอทีฟที่เน้นการออกแบบเยอะๆ มีความเป็นเอกลักษณ์ ธีมแนว Page Builder จะเป็นตัวเลือกที่ดีที่สุด เพราะสามารถที่จะนำมาสร้างและออกแบบเว็บได้อย่างรวดเร็วและความสวยงามก็จะ แปรผันตามความคิดสร้างสรรค์ของคนออกแบบล้วนๆ ธีมเหล่านี้ส่วนใหญ่สามารถที่จะลากวางนำส่วนประกอบต่างๆ มาจัดตามที่เราต้องการและปรับแต่งให้มีเอกลักษณ์มากขึ้น อันนี้เหมาะกับศิลปิน

avada-banner

 

ดัง นั้นอยากให้ผู้อ่านค่อยๆ ใช้เวลาเลือก เปิดดู Demo ตัวอย่างในแต่ละหน้า ว่าเขามีอะไรมาให้บ้าง ในกรณีที่เราเขียนโค้ดไม่เป็นนั้นก็ต้องยอมรับว่า เหลือย่อมดีกว่าขาด

2. ใช้เวลากับการศึกษาการปรับแต่งธีมนั้นๆ

mythemeshop-general-settings

สิ่ง แรกเลยหลังจากที่ติดตั้งธีม เราต้องไปที่ Theme Options และ Customize ก่อนเลย ทั้ง 2 เมนูนี้อยู่บนเมนูหลัก Apperance (รูปแบบบล็อก) เราจะได้เห็นความเป็นไปได้คร่าวๆ ว่าเราจะสามารถที่จะกำหนดเปิดปิดจัดวางอะไรตรงไหนได้ยังไงบ้าง ปกติแล้วแต่ละเมนูเขาก็จะมีคำอธิบายประกอบ ว่าการตั้งค่านี้เกี่ยวกับอะไร ดังนั้น ภาษาอังกฤษ เป็นสิ่งที่จำเป็น แต่ก็ไม่ใช่ว่าไม่เก่งภาษาแล้วจะทำไม่ได้เลย แค่เปิดดิกชันนารี่เดาๆ ความหมายเอา แล้วลองคลิกดู แล้วก็เปิดหน้าเว็บอีกหน้าควบไปด้วย เราจะได้รู้ว่า ถ้าเราทำแบบนี้ แล้วจะเกิดอะไรเปลี่ยนแปลงบ้าง อย่ากลัวที่จะลอง

แทบ ทุกธีมบนเว็บเขาจะมีสิ่งที่เรียกว่า Document เจ้าสิ่งนี้แหละคือคู่มือที่จะทำให้เรารู้ว่าควรจะปรับแต่งอะไรตรงไหน ก็เป็นภาษาอังกฤษอีกเช่นกัน แต่ส่วนใหญ่เขาก็จะมีทั้งภาพประกอบ บางที่ก็มีวิดีโอให้เปิดดูได้เลย ธีมฟรีที่เราติดตั้งผ่าน WordPress บนหลังบ้านเรานั้น ก็มีเว็บของคนเขียนธีมอยู่ หากกดดูรายละเอียดธีมเราก็จะสามารถไปยังเว็บหลักของเขาเพื่อที่จะดูคู่มือ เหล่านี้ได้

divi-document

WordPress มีธีมและปลั๊กอินมากมายให้เราศึกษา ยิ่งเรียนรู้มากเท่าไหร่ เราก็ยิ่งเชี่ยวชาญมากขึ้นเท่านั้น ธีมบางธีมที่เป็น Page Builder เช่น Avada, Divi, The7 พวกนี้ ถ้าเชี่ยวชาญมากพอก็สามารถทำเว็บออกมาได้แบบไม่จำกัดรูปแบบ สามารถสร้างเงินสร้างงานและอาชีพให้คุณได้

3. ปล่อยวาง

leaveit-or-fixit

ข้อ นี้มาแปลก แต่มันคือเรื่องจริงที่ต้องปล่อยวางในบางครั้ง นี่คือเหตุผลที่ทำไม WordPress Theme ส่วนใหญ่จะมีการตั้งค่ายิบย่อยมากมาย เหตุผลของเขาก็เพื่อให้เราสามารถปรับแต่งได้เยอะที่สุด แต่หากจุดไหนที่มันไม่มี ไม่ได้เขียนมา หากเราเขียนโค้ดไม่เป็นเราก็ต้องปล่อยวางมันไป หากเราเลือกในข้อแรกมาดีแล้ว เราก็จะเจอกับเรื่องที่ต้องปล่อยวางน้อยลง เลือกแบบส่งๆ ก็อาจจะปวดหัวนิดนึง วิธีแก้คือข้อต่อไป

4. The Power of Community!

13411976_1440670845958952_1334135955684827_o

ข้อนี้จะมาช่วยให้เราไม่ต้องปล่อยวาง ทางออกในปัญหานั้นมีอยู่มากมาย อันดับแรกเลยคือ Support สิ่งที่หลายๆ คนไม่เห็นความสนใจ หน้าที่ของ Support ที่นอกเหนือจากจะช่วยแก้ไขปัญหาเหล่านี้แล้ว บางเจ้าก็ยังช่วยปรับแต่งในส่วนที่เราต้องการได้ด้วย แต่ไม่ใช่ปรับแต่งแบบเหมือนจ้างเขามาทำให้นะคะ เขาจะยินดีช่วยเหลือในการปรับแต่งโค้ดของเขา เช่น ปรับแต่งธีมเอาส่วนที่เราไม่ต้องการออไป แต่ไม่มีใน Theme Options เขาก็จะช่วยเหลือเรา หากเป็นปลั๊กอิน ส่วนใหญ่ก็อาจจะเกี่ยวกับการทำงานไม่เป็นไปตามที่ควรจะเป็นเพราะว่าอาจจะไป มีปัญหากับส่วนอื่นๆ ในเว็บ เป็นต้น

Community สิ่งนี้เองที่ทำให้ WordPress มีคนใช้งานมากขึ้นเรื่อยๆ เพราะมีชุมชนผู้ใช้งานขนาดใหญ่ และเป็นกลุ่มก้อนกัน ก่อให้เกิดการแบ่งปันและช่วยเหลือซึ่งกันและกัน ตั้งแต่คนใช้งานทั่วไป เว็บดีไซน์เนอร์ โปแกรมเมอร์ ฯลฯ

กลุ่มของคนทำเว็บ WordPress ในประเทศไทยที่ค่อนข้างแอคทีพและมีคนให้คำปรึกษาดีเลยทีดีเลยทีเดียว https://www.facebook.com/groups/wpalliance/ และมีการจัด WordPress Meet up ทุกเดือนอีกด้วย

wp-thai-group

ธีมบางธีมเช่น Divi ก็มีกรุ๊ปที่มีสมาชิกนับหมื่นเลยทีเดียวเพราะมีคนใช้งานจากทุกประเทศ ซึ่งก็ยังแตกกลุ่มออกไปอีกหลายกลุ่ม ดังนั้นเราสามารถที่จะใช้จุดเด่นในเรื่อง Community ของ WordPress ในการแก้ไขปัญหาได้ และบางทีก็มักจะได้รับมิตรภาพดีๆ จากคนที่ชอบในสิ่งเดียวกันด้วย เราก็อาศัยเรียนรู้จาก Suport และ Community เหล่านี้ได้เช่นกัน You’ll Never Walk Alone

 

แหล่งที่มา http://www.wpthaiuser.com/building-website-no-codeing-with-wordpress/

 

Repair Database บนระบบ Directadmin ง่ายๆ แค่ 1 บรรทัด

สวัดดีครับ หลายๆท่านคงเจอปัญหาต้องมานั่งไล่ Repair Database ทีละอันๆ สุดแสนจะน่าเบื่อ

ยิ่งเจอเข้าไปหลายๆ User ยิ่งหน้าเบื่อ  วันนี้ผมจะมาสอนวิธีการ Repair ทีเดียว ยกเครื่องเลยครับ

 

mysqlcheck -uda_admin -p`grep “^passwd=” /usr/local/directadmin/conf/mysql.conf | cut -d= -f2` –auto-repair –all-databases

ง่ายๆแค่นี้เองครับ  ก่อนนำคำสั่งไม่ใช้ ให้ copy ใส่ Notepad ก่อนนะครับ ให้มันอยู่ในบรรทัดเดียวกัน

** คำเตือน การ Repair มีความเสี่ยง  ดังนั้น ต้องมั่นใจว่าจะไม่มีอะไรมาสะดุด  เช่น Server ดับ Net ดับ ระหว่างทำนะครับ

วิธีเปิดใช้งาน Let’s Encrypt ใน Directadmin

สวัดดีครับ หลายๆท่านคงรู้จัก Let’s Encrypt กันแล้วนะครับ ซึ่งเจ้าตัว Let’s Encrypt นี้

 

ช่วยให้ท่านสามารถ ใช้งาน SSL ได้แบบฟรีๆไปเลย ไม่มีค่าใช้จ่ายเพิ่มเติมใดๆ

 

หากท่าน ใช้งาน Directadmin อยู่ ในถือสิทธิ์ Root ของเครื่องนั้นๆ สามารถ Copy command line นี้

ไปใช้ได้เลยครับ

 

echo “enable_ssl_sni=1” >> /usr/local/directadmin/conf/directadmin.conf
echo “letsencrypt=2” >> /usr/local/directadmin/conf/directadmin.conf

cd /usr/local/directadmin/custombuild
./build update
./build rewrite_confs

Copy วางได้เลยครับ  หลังจากนั้นก็ ไปที่หน้า Set SSL ของ User ที่ต้องการ

แล้วสามารถเลือกใช้ ได้เลยครับ

หากลูกค้าเช่า VPS กับทางเราอยู่ ไม่จำเป็นต้องทำเองนะครับ Email มาหาได้เลย

เปลี่ยนใจมาใช้บริการ Host เว็บไทย นั้นดีกว่าจริง

เปลี่ยนใจมาใช้บริการ Host เว็บไทย นั้นดีกว่าจริง

 

ธุรกิจทั้งรายเล็กและรายใหญ่ต้องใช้งานเว็บไซต์เป็นช่องประชาสัมพันธ์และติดต่อลูกค้ามากขึ้น องค์กรขนาดใหญ่จะมีการจัดจ้างผู้พัฒนาเว็บไซต์เพื่อสร้างงานที่ดีกว่า และให้ฝ่ายไอทีคอยดูแลเซิร์ฟเวอร์ เพราะเซิร์ฟเวอร์ขององค์กรสามารถใช้งานภายในได้ด้วย ส่วนเว็บไซต์นั้นใช้พื้นที่จัดเก็บข้อมูลไม่เยอะมาก จึงเป็นความคุ้มค่ากว่าการใช้บริการ Host เว็บไทย จากผู้ให้บริการภายนอก แต่ธุรกิจรายย่อยควรหันมาใช้บริการ Host เว็บไทย แทน Web Hosting จากต่างประเทศ เพราะบริการที่ใกล้เคียงและดีกว่า ส่งผลต่อการทำงานของเว็บไซต์คุณแน่นอน

 

มูลค่าของอุปกรณ์และระบบปฏิบัติการในการสร้างเซิร์ฟเวอร์นั้นสูง และต้องมีผู้เชี่ยวชาญดูแลนั้น ผู้ให้บริการชาวไทยได้ก้าวทัดเทียมต่างประเทศแล้ว จึงไม่จำเป็นที่จะใช้บริการ Web hosting ต่างประเทศ คนไทยเก่ง ๆ ที่ให้บริการ Host เว็บไทย นั้นมีมากขึ้น การแข่งขันของผู้ให้บริการย่อมสูงขึ้น ส่งผลดีต่อเจ้าของเว็บไซต์รายย่อยที่ได้รับผลประโยชน์ไปเต็ม ๆ เพราะผู้ให้บริการ Host เว็บไทย ย่อมต้องการลูกค้า การเสนอราคาที่ถูกกว่าด้วยคุณภาพของอุปกรณ์และบริการที่ดีกว่าต้องมาคู่กัน เป็นกลไกทางธุรกิจที่พบเห็นเป็นประจำ

 

การใช้บริการ Host เว็บไทย ช่วยลดภาระค่าใช้จ่าย นอกจากข้อมูลข้างต้นแล้ว อัตราการให้บริการจาก Host เว็บไทย ถูกกว่าต่างประเทศตามอัตราแลกเปลี่ยนในช่วงเวลานั้น ซึ่งตอนนี้อัตราแลกเปลี่ยนต่อเงินดอลล่าร์สหรัฐคือ 36 บาท เงินบาทอาจอ่อนตัวลงได้อีก เป็นผลเสียของเจ้าของเว็บไซต์รายย่อยที่มีรายจ่ายเพิ่ม ดังนั้นการใช้ Host เว็บไทย จึงประหยัดมากกว่า เพราะราคาค่าบริการคงตัวที่สุด และสัญญามีให้เลือก 3 เดือน, 6 เดือน หรือรายปี คุณทดลองใช้บริการได้เพื่อประเมินความถูกใจ

 

สำหรับเจ้าของเว็บไซต์รายใหม่ก็เลือกใช้บริการจาก Host เว็บไทย ดีกว่า ส่วนเจ้าของเว็บที่ติดสัญญากับ Hosting ต่างประเทศก็เก็บข้อมูลของ Host เว็บไทย ไว้เป็นตัวเลือกต่อการฝากเว็บไซต์ครั้งต่อไป ความคุ้มค่าที่ได้จาก Host เว็บไทย นั้นมีมากกว่า ทั้งด้านสินค้า (Hosting) และบริการ (ผู้เชี่ยวชาญ) การพูดคุยด้วยภาษาเดียวกันทำให้การทำงานนั้นง่ายขึ้น ผู้ให้บริการ Host เว็บไทย ที่มีความน่าเชื่อถือและคุณภาพเหมาะสมกับมูลค่าด้านบริการก็มีให้เลือกมากขึ้น