สำหรับคนที่อยู่ในแวดวง IT และคอมพิวเตอร์ รวมไปถึงบุคคลทั่วไปที่ชื่นชอบและติดตามด้านเทคโนโลยีเป็นประจำแล้ว คงไม่มีใครไม่รู้จักคำว่า Web Hosting หรือ Hosting แน่นอน เพราะเว็บไซต์ที่คุณเข้าถึงกันอยู่ทุกวันนี้ ไม่ว่าจะ Google, Facebook, YouTube หรือแม้แต่เว็บไซต์ของเรา ต่างก็มีพื้นฐานอยู่บนการ Hosting ทั้งนั้น เกริ่นมาขนาดนี้หลาย ๆ คนคงเดาได้แล้วใช่ไหม ว่าบทความในวันนี้ต้องหนีไม่พ้นเรื่องเกี่ยวกับการ Hosting แน่นอน ซึ่งเราจะถือว่าคุณเดาถูก แต่ยังถูกไม่หมดนะ เพราะวันนี้เราจะมาพูดถึงเรื่องของระบบ Cloud Hosting กัน ว่ามีคุณสมบัติดีอย่างไร ทำไมเว็บไซต์ต่าง ๆ โดยเฉพาะขององค์กรใหญ่ ๆ เริ่มหันมาใช้บริการแทนระบบ Web Hosting แบบเดิมกันถ้วนหน้า
ลักษณะการทำงานของ Web Hosting แบบเก่าจะใช้เครื่องเซิฟเวอร์ 1 ตัวทำหน้าที่ทั้งประมวลผลและเก็บข้อมูลเว็บไซต์ของลูกค้าหลายคน เวลาเซิฟเวอร์ดาวน์หรือมีปัญหา เว็บไซต์ของลูกค้าก็จะเข้าถึงไม่ได้ชั่วคราวจนกว่าจะซ่อมเสร็จ ซ้ำร้ายหากเครื่องเซิฟเวอร์เกิดเสียหายหนัก (จากอุบัติเหตุ เช่น ไฟไหม้, ไฟช็อต, น้ำท่วม ฯลฯ) ข้อมูลเว็บไซต์ก็อาจสูญหายไปได้ถาวร แต่กับ Cloud Hosting นั้นจะแยกส่วนการประมวลผลกับเก็บข้อมูลชัดเจน โดยใช้เครื่องเซิฟเวอร์หลายตัวเชื่อมต่อกันทำหน้าที่ประมวลผลอย่างเดียว แล้วใช้ Storage Server ซึ่งทำหน้าที่เหมือนกับ Hard disk เป็นที่เก็บข้อมูลเว็บไซต์แทน นอกจากจะทำให้ข้อมูลปลอดภัยมากกว่าแล้ว ยังทำให้มีการประมวลผลต่อเนื่องกว่าด้วย เพราะเมื่อเซิฟเวอร์ตัวใดตัวหนึ่งทำงานผิดพลาด ตัวอื่น ๆ ที่เหลือก็สามารถประมวลผลแทนได้โดยไม่มีสะดุด
ในกรณีที่เครื่องเซิฟเวอร์เกิดปัญหานั้น สามารถแก้ปัญหาได้โดยการเอาไปซ่อมหรือหาเครื่องทดแทนมาเปลี่ยน ซึ่งระหว่างนี้เว็บไซต์จะไม่สามารถเข้าถึงได้เลยสำหรับ Web Hosting แบบเก่า ยิ่งถ้าเครื่องตกรุ่นไปแล้วก็ยิ่งหาอะไหล่ซ่อมแซมยาก จนบางทีอาจจะใช้เวลานานเป็นวัน ๆ หรือหลายสัปดาห์เลยทีเดียว โชคดีที่ปัญหานี้ไม่เกิดกับ Cloud Hosting เพราะเราสามารถเปลี่ยนเครื่องทดแทนหรือซ่อมเซิฟเวอร์ได้โดยไม่ต้องกลัวเลยว่าการประมวลผลจะสะดุดหรือไม่ รวมถึงเว็บไซต์ก็สามารถเข้าถึงได้โดยไม่มีปัญหาแม้แต่วินาทีเดียว
หากคุณกำลังมองหา Hosting ที่น่าเชื่อถือและมีประสิทธิภาพ ขณะนี้ไม่มีอะไรตอบโจทย์ไปกว่า Cloud Hosting อีกแล้ว การันตีโดยผู้ใช้งานทั่วโลกเลยนะจะบอกให้.