Cloud VPS คืออะไร

เทคโนโลยีเป็นสิ่งที่มาไวไปไวมีการเปลี่ยนแปลงอยู่ตลอดเวลา หากคุณหยุดการติดต่อสื่อสารจากโลกอินเตอร์เน็ตไปเพียงไม่กี่วัน คุณก็ล้าหลังเสียแล้ว จะว่าไปเทคโนโลยีก็เหมือนตลาดหุ้นที่มีการผันผวนอยู่ตลอดเวลา คือมีนวัตกรรมใหม่เกิดขึ้นอยู่เสมอ และโปรแกรมอะไรที่เคยใช้มากลับเป็นโปรแกรมที่ล้าสมัย ยุ่งยากต่อการใช้งานไปเสียอย่างนั้น คนที่ทำงานทางด้านเทคโนโลยีจะเข้าใจดีว่าทำไมต้องติดตามข่าวสารด้านเทคโนโลยีอยู่เสมอ งั้นขอถามว่า คุณรู้จัก Cloud VPS หรือไม่

Cloud VPS หรือชื่อเต็มคือ Cloud Virtual Private Server คือเซิฟเวอร์เสมือนที่จำลองขึ้นมา ยกตัวอย่างเช่นสมัยก่อนหากสำนักงานหนึ่งมีข้อมูลเยอะมาก ๆ ก็จำเป็นต้องมีเซิฟเวอร์เป็นของตัวเองไว้ประมวลผล เซิฟเวอร์ตัวหนึ่งราคาหลายบาทแต่หากข้อมูลเยอะ เซิฟเวอร์ตัวเดียวอาจไม่เพียงพอที่จะทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพ ยิ่งเซิฟเวอร์ทำงานหนักเท่าไหร่การประมวลผลก็ยิ่งช้า และเซิฟเวอร์อาจพังได้ แต่เทคโนโลยีได้ถูกพัฒนาขึ้นทำให้ปัจจุบันสำนักงานไม่จำเป็นต้องมีเครื่องเซิฟเวอร์เป็นของสำนักงานเองก็ได้ สามารถเช่าระบบเซิฟเวอร์เสมือนแทน ด้วยระบบ Cloud เปรียบเสมือนก้อนเมฆที่คุณส่งข้อมูลขึ้นไปเก็บไว้อย่างไม่จำกัด ล่องลอยอยู่ในโลกอินเตอร์เน็ต สามารถเข้าถึงข้อมูลได้โดยผ่านการเชื่อมต่อทางอินเตอร์เน็ตและรหัสผ่านของเมฆก้อนนั้น ถึงจะเป็นระบบที่เก็บข้อมูลไว้รวม ๆ กันทั่วโลกแต่ก็มีความปลอดภัยสูง สามารถเข้าถึงข้อมูลได้ไม่ว่าคุณจะอยู่ที่ใดบนโลกหากสัญญานอินเตอร์เน็ตเข้าถึงคุณก็สามารถเข้าถึงข้อมูลได้เช่นกัน ฝากข้อมูลไว้บน Cloud VPS เก็บไว้เสมือนคุณมีเซิฟเวอร์เป็นของตัวเองจริง ๆ เลยเพียงแต่ไม่ต้องเสียเงินค่าไฟฟ้า จับต้องเครื่องไม่ได้ จัดการกับข้อมูลได้เพียงอย่างเดียว ถึงตรงนี้ใครที่อยากมี Cloud VPS เป็นของตัวเองก็สามารถสมัครใช้บริการได้ผ่านทางอินเตอร์เน็ตเพียงเดือนละไม่กี่บาท คุณก็สามารถใช้พื้นที่บนเซิฟเวอร์ได้ ไม่ใช่เพียงแค่เซิฟเวอร์ตัวเดียว แต่เซิฟเวอร์ทุกตัวจะช่วยประมวลผลแยกเป็นชั้น ๆ โดยไม่รบกวนการทำงานของตัวอื่น หากเครื่องใดเครื่องหนึ่งเสียก็มีเครื่องอื่นสำรองที่ยังประมวลผลให้คุณอย่างรวดเร็ว

เห็นไหมว่าเทคโนโลยีปัจจุบันไปไวมาก จนบางครั้งแม้แต่คนในแวดวงคอมพิวเตอร์และ IT ก็ยังแทบจะตามไม่ทัน นี่ไม่ต้องพูดถึงคนที่ทำงานด้านอื่น ๆ ไม่ว่าจะหมอ วิศวกร ครู ตำรวจ เกษตรกร คนขายไก่ย่าง แม่ค้าส้มตำ หรืออาชีพอื่น ๆ อีกเลย เพราะแค่หน้าที่ตัวเองก็เหนื่อยจะแย่ แทบจะไม่มีเวลามาศึกษาเจาะลึกด้านเทคโนโลยีใหม่ ๆ ด้วยซ้ำ อย่างไรก็ตามเราแนะนำว่า ยุคนี้สมัยนี้แล้วถึงจะเกลียดคอมพิวเตอร์หรือของ Hi-tech เข้าไส้ ยังไงก็ยังต้องพอรู้เรื่องแบบนี้ไว้บ้าง เพราะเทคโนโลยีกำลังเข้ามามีบทบาทในชีวิตประจำวันมากขึ้นเรื่อย ๆ จนคาดการได้ว่าอนาคต ทุกอย่างชีวิตมนุษย์อาจจะต้องพึ่งพาเทคโนโลยีเลยก็เป็นได้ ดังนั้น รู้ไว้ใช่ว่า ใส่บ่าแบกหามดีกว่าเนอะ